ผู้นำเยอรมนี เชื่อ "นาโต" มีความสำคัญต่อสหรัฐฯ

คำกล่าวของโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ล่าสุด นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ย้ำว่า นาโต ถือเป็นองค์กรที่มีความสำคัญในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงของสหรัฐฯ และประเทศต่างๆในยุโรปและเชื่อมั่นว่า สหรัฐฯ จะยังยึดมั่นในพันธกิจของชาติพันธมิตร

วานนี้ (12 ก.พ.)โอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และเมทเทอ เฟรเดอริกเซิน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก เดินทางเยือน ไรฮ์นเมทัลล์ (Rheinmetall) หนึ่งในผู้ผลิตปืนใหญ่และกระสุนรถถังรายใหญ่ที่สุดของโลก พร้อมวางศิลาฤกษ์โรงงานผลิตอาวุธแห่งใหม่ของบริษัท

“ทรัมป์” ประกาศ สนับสนุนรัสเซียโจมตีสมาชิกนาโตที่ไม่เพิ่มงบทหาร

อดีตที่ปรึกษาเชื่อ “ทรัมป์” อาจนำสหรัฐฯ ถอนตัวนาโต

ทั้งนี้โรงงานแห่งนี้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตอาวุธในปีหน้า จะช่วยเพิ่มการผลิตกระสุนปืนใหญ่ประมาณ 200,000 นัดต่อปี และทางไรฮ์นเมทัลล์ กำลังวางแผนลงทุน 300 ล้านยูโร หรือกว่า 1 หมื่นล้านบาท พร้อมสร้างงานใหม่ประมาณ 500 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ตามระหว่างการเดินทางเยือน ไรฮ์นเมทัลล์ โอลาฟ ชอลซ์ ได้แสดงความเห็นต่อประเด็นที่ทรัมป์ ระบุว่า สหรัฐฯ จะไม่ปกป้องชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต จากการโจมตีของรัสเซียในอนาคต หากประเทศต่างๆ ไม่เพิ่มสัดส่วนการลงเงินไปที่งบประมาณทางการทหาร

และยังเชื่อมั่นว่า นาโตมีความสำคัญต่อสันติภาพและความมั่นคง ของสหรัฐฯ และชาติยุโรป ทั้งยังเชื่อว่า ผู้นำสหรัฐฯ ก็จะยึดมั่นในพันธกิจของชาติพันธมิตร

ท่ามกลางความวิตกกังวลในหมู่ชาติพันธมิตรนาโตหลังคำประกาศของทรัมป์ โอลาฟ ชอลซ์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาติต่างๆ ในยุโรป รวบรวมคำสั่งซื้ออาวุธ และจัดหาเงินทุนเพื่อเป็นหลักประกันในการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศในทศวรรษหน้า

ผู้นำเยอรมนี ย้ำว่า นี่คือสิ่งจำเป็นเร่งด่วน เพราะความจริงอันน่าเจ็บปวดคือ สงครามรัสเซียและยูเครน ทำให้สันติภาพเกิดความสั่นคลอน และยุโรปต้องเร่งผลิตอาวุธจำนวนมากเพื่อใช้ยับยั้งผู้รุกรานให้ได้ นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนในปี 2022

เยอรมนีได้พลิกแนวคิดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปลี่ยนไปสู่การเสนออาวุธยุทโธปกรณ์หนักให้กับยูเครน โดยเวลานี้ เยอรมนีถือเป็นผู้บริจาคอาวุธรายใหญ่อันดับสองของยูเครน และผู้นำเยอรมนีกำลังผลักดันให้ชาติอื่นๆ ในยุโรป บริจาคอาวุธให้ยูเครนมากขึ้นคำพูดจาก สล็อตวอเลท

โอลาฟ ชอลซ์ ย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครนจะเป็นตัวตัดสินระเบียบสันติภาพของยุโรป และรัสเซียจะต้องประสบความล้มเหลวจากความพยายามในการใช้กำลังรุกรานประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครน

เมื่อวานนี้ยังมีอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ นั่นคือการพบกันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของสามชาติในยุโรป อย่าง ฝรั่งเศส เยอรมนี และโปแลนด์ ที่ชานเมืองกรุงปารีส โดยการพบกันของรัฐมนตรีสามชาติครั้งนี้มีขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหม

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการแถลงข่าว สเตฟาน เซเจอร์น รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ได้พูดถึงประเด็นของทรัมป์ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเขาย้ำว่าเวลานี้ ยุโรปต้องเตรียมการอย่างเร่งด่วน หากสหรัฐฯ จะปล่อยให้รัสเซียโจมตีชาติสมาชิกนาโตที่ไม่เพิ่มสัดส่วนงบประมาณกลาโหมตามเป้าและจะไม่ปกป้องชาติพันธมิตรนาโต ตามคำกล่าวอ้างของทรัมป์

ส่วนอีกความเคลื่อนไหวมาจาก ราดอสลาฟ ซิกอร์สกี รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ ที่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อถ้อยแถลงของทรัมป์เช่นเดียวกัน โดยเขาย้ำว่า โปแลนด์ใช้เงินมากกว่าร้อยละ 3 ของ GDP ในการป้องกันประเทศ ดังนั้นประเทศของเขาก็มีคุณสมบัติที่จะได้รับการคุ้มครองจากสหรัฐฯ

นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ ยังกล่าวด้วยว่า ถ้าทรัมป์มาพูดคุยกับเขา เขาก็จะบอกว่าโปแลนด์เป็นพันธมิตรนาโต ไม่ได้ทำสัญญากับบริษัทรักษาความปลอดภัย และจากมาตรา 5 ของนาโต โปแลนด์ก็ได้ส่งทหารไปยังอัฟกานิสถานมานานหลายทศวรรษ และไม่ได้ส่งใบเรียกเก็บเงินในส่วนนี้ไปยังสหรัฐฯ ด้วยซ้ำ

ขณะที่คัจซา โอลลองเรน รัฐมนตรีกลาโหมเนเธอร์แลนด์ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อความเห็นของทรัมป์ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัมป์พูดทำนองนี้ และตอนนี้อาจเป็นไปได้ที่เขาจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป

อย่างไรก็ตาม คัจซา โอลลองเรน ระบุว่า แม้คำพูดของทรัมป์สร้างความหวาดกลัวให้กับชาติสมาชิกนาโต แต่เธอเชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียชื่นชอบที่จะได้ยิน

ทั้งนี้หลังสงครามเย็นสิ้นสุดในช่วงทศวรรษที่ 1990 ชาติสมาชิกนาโต ซึ่งเป็นองค์กรด้านความมั่นคง ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1949 ได้ตกลงกันว่า ทุกประเทศจะยุติการลดงบประมาณด้านกลาโหม และหันไปเพิ่มสัดส่วนงบประมาณด้านกลาโหมให้แตะที่ร้อยละ 2 ของ GDP ภายในปี 2024 อย่างไรก็ตามการใช้จ่ายด้านกลาโหมของชาติสมาชิกนาโตที่ผ่านมาได้สร้างความไม่พอใจให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์

ตลอดช่วงเวลาที่ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงปี 2016-2020 เขามีท่าทีในทางลบต่อนาโต หลายครั้งทรัมป์มักออกมาขู่ว่าจะให้สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากนาโต และแสดงความไม่พอใจที่ชาติสมาชิกอื่นๆ ในยุโรปลงงบประมาณไปกับการป้องกันประเทศน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์ยังเคยวิพากษ์วิจารณ์นาโตด้วยว่าเป็นองค์กรที่ล้าสมัยไปแล้ว แม้ท้ายที่สุดจะออกมากลับคำก็ตาม

ล่าสุด สำนักข่าว CNN รายงานว่า จอห์น บอลตัน อดีตที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเตือนเรื่องการถอนสหรัฐฯ ออกจากการเป็นสมาชิกนาโต

อดีตที่ปรึกษาสภาความมั่นคงฯ รายนี้ระบุว่า นาโตกำลังตกอยู่ในภาวะอันตราย และทรัมป์อาจพาสหรัฐฯ ออกจากการเป็นสมาชิกนาโต หากเขาได้เป็นประธานาธิบดี นอกจากนี้ การละเลยพันธกรณีด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ที่มีต่อองค์การนาโต อาจจะขยายไปถึงข้อตกลงการป้องกันร่วมกัน ที่สหรัฐฯ ทำร่วมกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นด้วย

104 แคปชัน-คำอวยพร วาเลนไทน์ 2567 ประโยคเด็ดบอกสถานะ โสด มีคู่ อกหัก

ปลดป้ายครอบครองปรปักษ์ ทนาย-ตร.พาเจ้าของบ้านตัวจริง ลุยเอาบ้านคืน

"เชลซี" ยื่น 2 เงื่อนไขชี้ชะตา "โปเช็ตติโน่"