เอกชนขีดเส้น ส.ค.ต้องได้รัฐบาลใหม่ แก้เศรษฐกิจ-ปากท้อง

เริ่มกันที่ นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว PPTVช่อง 36 แสดงความเห็นส่วนตัวในฐานะนักธุรกิจคนหนึ่ง ระบุว่า ในฐานะภาคเอกชน อยากเห็นการจัดตั้งรัฐบาลภายในเดือนสิงหาคม เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศได้เดินหน้าต่อ จึงขอให้ทุกฝ่ายถอยคนละก้าวเพื่อประเทศชาติคำพูดจาก สล็อตวอเลท

เมื่อผลการโหวตออกมาแล้วว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรียังขาดคะแนนเสียงอยู่ พรรคก้าวไกล อาจต้องทบทวนว่านโยบายไหนที่เป็นความไม่สบายใจของ ส.ว.

 เอกชนขีดเส้น ส.ค.ต้องได้รัฐบาลใหม่ แก้เศรษฐกิจ-ปากท้อง

ขอทุกฝ่ายถอยคนละก้าว

ส.อ.ท.มองว่า นโยบายที่สุดโต่งจะถอยได้หรือไม่ หรือเอาพรรคอื่นมาร่วมได้ไหม แต่อาจทำให้เสียจุดยืนทางการเมือง ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล หรือด้อมส้ม อาจต้องถอยด้วยการสนับสนุนอย่างมีขอบเขต คุยกันแบบมีวุฒิภาวะ ชุมนุมอย่างสันติ การกดดันส.ว.ด้วยการก่นด่า ไม่สามารถเอาชนะใจส.ว.ได้อย่างแน่นอน

ส่วน ส.ว. และพรรคการเมืองอื่น ๆ ก็ควรต้องยอมถอยให้รัฐบาลที่มาจากเสียงข้างมากได้บริหารประเทศ อย่าเอาประเทศเป็นเดิมพันเพื่อเอาชนะกัน

เอกชนพร้อมทำงานกับทุกพรรค-ไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย

อย่างไรก็ตาม หากนายพิธาโหวตไม่ผ่าน ก็เป็นสิทธิของพรรคอันดับ 2 คือเพื่อไทยที่ต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งนายอิศเรศมองว่าในฐานะภาคเอกชน พร้อมทำงานกับทุกพรรค ขอเพียงแค่ 8 พรรคร่วมรัฐบาลยังจับมือกันอยู่ตามความต้องการของประชาชน ไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ที่สำคัญคือควรจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ภายในเดือนสิงหาคม เพื่อเดินหน้าผลักดันนโยบายต่าง ๆ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาปากท้อง เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ขับเคลื่อนการส่งออกที่ยังติดลบ รวมถึงแสดงความกังวลว่าจะเกิดการชุมนุมประท้วงรุนแรงนำมาซึ่งการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะขัดขวางภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่เราตั้งเป้าไว้ว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ 30 ล้านคนในปีนี้

คาดหวังตั้ง ครม.มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์

นายอิศเรศ บอกอีกว่า เมื่อได้นายกรัฐมนตรีแล้วก็คาดหวังว่าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี จะได้บุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ เหมาะสมกับตำแหน่ง ยึดประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่มาตามโควตาว่าใครได้กี่เสียง จับจองกระทรวงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แบบนั้นจะทำให้ได้รัฐมนตรีที่ไม่มีความรู้ความสามารถตรงกับกระทรวงที่รับผิดชอบ

สื่อนอกรายงาน "พิธา" ชวดนายกฯ ไม่รอดด่านส.ว.

หุ้นไทยเขียวยกแผง พุ่ง 18 จุด หลัง “พิธา” แพ้โหวตนายกรอบแรก

ด้าน“หอการค้าไทย มองเร็วเกินไปที่จะประเมินสถานการณ์

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากผลการลงคะแนนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หอการค้าไทย เชื่อว่ากระบวนการตามระบอบประชาธิปไตยในทางรัฐสภาได้พยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่ และยังมี Timeline ครั้งที่ 2 – 3 ตามที่มีกำหนดออกมาเบื้องต้นในวันที่ 19 และ 20 ก.ค. โดยหลังจากนี้ ทั้ง 8 พรรคร่วมฯ คงจะกลับไปทำความเข้าใจและเจรจาพูดคุยเพื่อหาแนวทางร่วมกันใหม่อีกครั้ง และคงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด

ชุมนุมระยะสั้นไม่กระทบเศรษฐกิจ มองยังโตได้ 3.5%

ด้านการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้น ถือเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนภายใต้กฎหมาย ที่สามารถทำได้ และวันนี้เราเห็นแล้วว่าทุกฝ่ายต่างยอมรับและเคารพในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเชื่อว่าในระยะสั้นการชุมนุมจะอยู่บนพื้นฐานของความเรียบร้อย ไม่กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายมองว่าสามารถเติบโตได้ทั้งปี 3 – 3.5 %

เร็วเกินไปที่จะประเมินสถานการณ์ แต่ก็อยากได้รัฐบาลให้เร็วกระตุ้นเศรษฐกิจ

ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินสถานการณ์ แต่หอการค้าฯ ยังคงเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีกระบวนการหารือและทำความเข้าใจร่วมกัน ในที่สุดทุกฝ่ายจะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศ และสนับสนุนให้เกิดรัฐบาลใหม่โดยเร็วที่สุด เพราะหากได้รัฐบาลล่าช้าออกไป การจัดตั้ง ครม. และการประกาศนโยบายต่อรัฐสภาอาจจะเกิดขึ้นช่วง ส.ค.- ก.ย. และกว่าจะจัดทำงบประมาณแล้วเสร็จอาจได้เริ่มใช้งบประมาณประเทศในไตรมาส 2 ปี 67 ซึ่งจะล่าช้าและกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและนักลงทุนต่างประเทศ

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเอกชนจึงอยากให้การจัดตั้งรัฐบาลใหม่รวดเร็วที่สุด เพื่อเศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้